ประเภทของไม้



บทนำ

ประเภทของไม้ มีให้เลือกหลากหลายแบบ ขึ้นอยู่กับลักษณะการแบ่ง เช่น ถ้าใช้ภูมิศาสตร์ในการแบ่ง

เราอาจจะแบ่งเป็นไม้ในประเทศ-ไม้ต่างประเทศ ,  หรือแบ่งตามลักษณะทางกายภาพเช่น ไม้เนื้อแข็ง-เนื้ออ่อน

โดยการเลือกใช้ไม้นั้น เราควรจะเลือกชนิดของไม้ โดยพิจารณาจากคุณภาพหรือคุณสมบัติของไม้ให้เหมาะสมกับประเภทของงาน

เช่น การเลือกใช้ไม้เนื้ออ่อนมาใช้เป็นโครงสร้างก็อาจจะเกิดการบิ่น หรือ แตกหักได้ง่าย

หรือ การเลือกใช้ไม้เนื้อแข็ง แต่เป็นไม้ที่มีผิวสัมผัสหยาบ ลายไม่สวย มาใช้เป็นส่วนตกแต่ง ก็ทำให้ดูไม่สวยงาม

ดังนั้นการเลือกใช้ไม้ ควรจะเลือกให้เหมาะสมกับงาน เพื่อช่วยให้ไม้มีความคงทน ดูแลรักษาง่ายและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

ดังนั้นก่อนจะเลือกไม้มาใช้งานงาน ไม่ว่าจะเป็นงานประเภทไหน ก็ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับไม้ประเภทต่างๆให้ดีเสียก่อน

 

ไม้ในประเทศ 

ภูมิอากาศของประเทศไทยส่งผลต่อลักษณะและคุณสมบัติของไม้ในประเทศไทย ซึ่งอยู่ในโซนเขตร้อน

โดยไม้ส่วนมากจะมีสีแดงหรือสีน้ำตาลเข้ม และส่วนใหญ่ก็จะเป็นไม้เนื้อแข็ง ซึ่งแตกต่างจากไม้ในโซนยุโรป

โดยไม้โซนยุโรปส่วนใหญ่ก็เป็นไม้โทนสีอ่อน หรือ มีสีที่ไม่เข้มเท่ากับบ้านเรา


ไม้ในประเทศเองก็ยังสามารถแบ่งตามคุณลักษณะของไม้ออกเป็น ไม้เนื้อแข็ง และ ไม้เนื้ออ่อน

โดยลักษณะคุณสมบัติการนำไปใช้งานก็จะแตกต่างกันไปตามแต่ละชนิดไม้

ไม้เนื้อแข็ง

ไม้ชนิดนี้จะมีวงปีที่มากกว่าไม้ชนิดอื่น เนื่องจากระยะเวลาเจริญเติบโตของไม้ค่อนข้างช้าและไม้ต้องมีอายุมากจึงจะนำมาใช้งานได้

โดยไม้ชนิดนี้ส่วนใหญ่จะมีเนื้อไม้สีเข้ม มีความเหนียวและแข็งแรงมาก จึงมีความทนทานสามารถนำมาใช้กับงานภายนอกที่ต้องตากแดด ตากฝน ได้ดี

แต่ถึงแม้ว่า ข้อดีของไม้เนื้อแข็งคือ ความแข็งแรงทนทาน แต่ข้อเสียของมันก็คือ อาจจะเกิดการบิดตัวของไม้ เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงของ ความชื้น

ความร้อน หรือ อุณภูมิอย่างรวดเร็ว จะมีผลให้ไม้หดและขยายตัวได้ ซึ่งไม้เนื้อแข็งทุกชนิดส่วนใหญ่ก็จะเกิดการบิดตัวเล็กๆน้อยๆ เป็นเรื่องปกติเช่นเดียวกัน

ไม้เนื้อแข็งที่นิยมใช้ในบ้านเรา มีดังนี้

1.) ไม้เต็ง

2.) ไม้แดง

3.) ไม้มะค่า

4.) ไม้ตะแบก

5.) ไม้ตะเคียน

6.) ไม้สัก

7.) ไม้ยางพารา

8.) ไม้ประดู่

9) ไม้ยาง

10.) ไม้กะบาก

ไม้ฉำฉา หรือ ไม้จามจุรี

 

ไม้เนื้ออ่อน

ไม้ชนิดนี้จะมีระยะเวลาการเจริญเติบโตเร็ว ทำให้มีวงปีกว้าง ลายไม้ที่ได้จึงน้อยและไม่ละเอียด

เนื้อไม้จึงมีความแข็งแรงทนทานน้อยกว่าไม้เนื้อแข็ง ไม้ชนิดนี้จะมีสีของไม้แตกต่างกันออกไปมาก

โดยมีตั้งแต่ไม้ที่มีสีจาง อ่อนไปจนถึงเข้ม เนื้อไม้ไม่แข็งมากจึงไม่นิยมนำมาใช้เป็นส่วนโครงสร้างที่ต้องการรับน้ำหนัก

และเนื่องจากเนื้อไม้ที่อ่อน จึงนิยมนำมาใช้ตกแต่งภายในหรือทำเฟอร์นิเจอร์ในส่วนที่ไม่ต้องรับน้ำหนัก

แต่จะไม่เหมาะที่จะใช้กับงานภายนอกที่ต้องโดนแดดโดนฝน

 

ไม้เนื้อ่อนที่นิยมใช้ในบ้านเรา มีดังนี้

1.) ไม้สยาขาว

2.) ไม้ฉำฉา หรือ ไม้จามจุรี

3.) ไม้มะม่วง

4.) ไม้ทุเรียน

5.) ไม้ขนุน

ไม้ต่างประเทศ

ไม้ต่างประเทศส่วนใหญ่นั้นจะเป็นไม้เนื้ออ่อน ซึางนิยมนำมาใช้เป็นไม้สำหรับงานตกแต่งเพื่อความสวยงาม

ถ้าเป็นไม้สำหรับงานโครงสร้าง  นิยมใช้ไม้สน เนื่องจากไม้สนเป็นไม้โตไวและมีจำนวนมาก

ซึ่งในปัจจุบันนี้ได้มีกรรมวิธีพัฒนาคุณสมบัติของไม้ เพื่อให้มีความแข็งแรงทนทานมากขึ้น เพื่อนำมาใช้งานได้ดียิ่งขึ้นด้วย

ไม้ต่างประเทศที่นิยมใช้กัน มีดังนี้

1.) ไม้โอ๊คแดง

2.) ไม้โอ๊คขาว

3.) ไม้บีช

4.) ไม้เชอรี่

5.) ไม้วอลนัท

6.) ไม้เมเปิ้ล

7.) ไม้แอช

8.) ไม้เวงเก้

9.) ไม้สนเรดิเอต้า

10.) ไม้ทิวลิป